ช่องทางที่พนักงานบริษัทเอกชน หรือ ข้าราชการ ใช้ช่องโหว่หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง มีอะไรบ้างครับ [ห้ามการเมืองนะครับ]

ก่อนอื่นขอความร่วมมือ และ ขอขอบคุณล่วงหน้าที่ ห้ามพูดถึงเรื่องการเมืองนะครับ

สำหรับกระทู้นี้ เจตนา ผมต้องการหาทางแก้ปัญหาครับ
เพราะเร็ว ๆ นี้ ผมอาจจะต้องทำธุรกิจครับ เลยอยากทราบเป็นประสบการณ์ครับ
อีกหน่อยถ้า ธุรกิจไปได้สวย อาจจะต้องจ้างพนักงานครับ ซึ่งผมไม่อยากโดนแบบที่ผมได้ยินมา


เกริ่นก่อนนะครับ
ผมได้ไปนั่งร้านอาหารแห่งหนึ่งมา กับเพื่อน ๆ (เพื่อนบางคนของผมเปิดบริษัท) แล้วโต๊ะข้าง ๆ เค้าคุยกันครับ ... พอดีผมนั่งริมสุดเลยได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง (แม้ว่าผมจะไม่ได้ตั้งใจฟังนะครับ แต่เสียงโต๊ะข้าง ๆ เข้าหูผมยังไงก็ต้องได้ยินครับ ฮาาาา )

โต๊ะข้าง ๆ เค้าพูดถึงคนในหน่วยงานที่เค้าทำงาน ว่ามีช่องทาง วิธีการ การหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง (เค้าพูดถึงคนที่ทำงานเค้าอีกทีครับ)

ที่ผมจับใจความได้ มี ...

หน่วยงานจัดงานสัมนา (หลักสิบคนบ้าง หลักร้อยคนบ้าง)

เรื่องอาหาร
การจัดสัมนาต้องมีอาหาร และ เครื่องดื่ม ... คนจัดการอาหาร และ เครื่องดื่ม ก็ไปจัดหา โดยพูด ขอเปอร์เซ็นต์ เช่น ข้าวกล่องละ 40 ให้คิด 35  แต่เขียนบิล 40 ... ถ้ามีคนสัมนา 100 คน ก็ได้แล้ว 500 บาท ... นี่แค่ข้าวกล่องนะครับ ยังไม่นับงานที่ไปเหมาอาหารแนวบุฟเฟ่ ตามร้านอาหารที่ราคาสูงกว่านี้

เรื่องสถานที่
ถ้าจำนวนคนเยอะ ก็ต้องไปจัดสถานที่ใหญ่ ๆ ก็ต้องไปหาสถานที่ เช่น โรงแรม ... ก็คล้าย ๆ เรื่องอาหารครับ คือ ไปเตี๊ยมกับเซล ว่าขอเปอร์เซ็นต์เท่านี้ ๆ แต่จะใช้คำพูดอ้อม ๆ ครับ เซลจะรู้เอง ผมก็ไม่รู้นะว่าที่พูดอ้อม ๆ พูดอย่างไร




แผนกไอที (มั๊ง)
จะซื้อคอมพิวเตอร์ ล๊อตใหญ่  คนอนุมัติซื้อก็ส่งใบเสนอจัดซื้อไปที่ต่าง ๆ  แล้วสุดท้าย บริษัทเหล่านี้ก็จะติดต่อมาเอง โดยหลายที่ก็เสนอเปอร์เซ็นต์ให้เองเลยโดยไม่ต้องร้องขอ ... จากนั้นก็มาดูว่าเจ้าไหนให้เยอะสุดก็เอาเจ้านั้น  ... บางเจ้าก็ซื้อของขวัญ (ของแพงให้)  หรือ พาไปเลี้ยงอาหาร (ลงอ่าง)



เรื่องราวก็ยังมีอีกครับ แต่ผมจำไม่ได้  และบางทีก็ไม่ได้ฟัง

พอโต๊ะข้าง ๆ ออกจากร้านไปแล้ว
ผมก็เลยเอามาคุยกับเพื่อนในโต๊ะ ก็เลยเป็นหัวข้อสนทนากันต่อ

ร้านขายเสื้อผ้า
เพื่อนที่เปิดร้านขายของบอกว่า ธุรกิจมันเอง มันก็เจอ แต่ตรวจสอบอะไรไม่ได้
เพื่อนผมคนนึง มันเปิดร้านขายของ 3 ร้าน จ้างพนักงานขายประจำ 2 ร้าน ส่วนตัวมันเฝ้าร้านสาขาแรก
สมมุติว่า
เพื่อนผมกะขายเสื้อราคา 170  แต่ต้องติดราคาป้ายขาย 200 และ บอกพนักงานขายไปว่าลดได้แค่ 170  
ทุกครั้งที่ขายออกต่อชิ้น เพื่อนผมให้เปอร์เซ็นต์ด้วย (เงินเดือนต่างหาก)
แต่ในความเป็นจริง พนักงานขายก็อาจจะมีบ้างที่ ขายไป 190 แต่ลงราคาไว้ 170 แล้วเข้ากระเป๋าตัวเอง 20 บาท (เพื่อนผมบอกมาแบบนี้อีกที)
ซึ่งเพื่อนผมเองมันก็บอกเองว่าไม่สามารถตรวจสอบได้ ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย เพราะยังไงก็กะเอาราคาขายที่ 170 อยู่แล้ว






ส่วนผม รู้สึกยังไม่จุใจครับ ผมก็เลยอยากทราบต่อครับว่า มันมีช่องทางไหนบ้างที่ควรระวังไว้ครับ เลยเอามาถามใน pantip เนี่ยแหละครับ แหะ ๆ


พอฟังมาแบบนี้รู้สึกเห็นใจพนักงานขาย มากเลยครับ  ถ้าไม่ยอมก็ไม่ได้งาน พอไม่ได้งานก็ไม่ได้เงิน ก็เลยต้องยอม ... ส่วนผมก็ได้แต่ฟังมา ไม่เคยเจอสถานการณ์จริงครับ


ก็เลยอยากจะรบกวนให้เล่าสู่กันฟังครับ
แล้วถ้าท่านเป็นเจ้าของบริษัท หรือ เป็นหัวหน้าหน่วยงานนั้น จะหาทางแก้ไขอย่างไรครับ


ปล... ห้ามพูดเรื่องการเมืองนะครับ


ขอบคุณมากครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่